วิธีทำให้ผิวขาว อยากขาวทำไง ทำยังไงให้ขาว วิธีทำให้หน้าขาว
บทความสุขภาพเสนอวิธีทําให้ผิวขาว อยากขาวทำไง ทํายังไงให้ขาว วิธีทําให้หน้าขาว การทำให้ผิวขาว สามารถทำได้หลายวิธี หลายสูตรด้วยกัน ซึ่งการที่มีผิวขาวจะช่วยทำให้ดูดีขึ้น มีความสวยหล่อมากขึ้น ส่งผลทำให้ความมั่นใจคุณเพิ่มมากขึ้น โดยการที่จะทำให้ผิวขาวหน้าขาว สามารถทำได้หลายวิธี แต่คุณจะรู้ได้ยังไงล่ะว่าวิธีไหนที่จะทำให้คุณขาวได้มากที่สุด ทำยังไงให้ขาวแบบปลอดภัย คุณก็ต้องเลือกวิธีที่จะทำให้ผิวขาวเหล่านี้ไปปฏิบัติ ตามไปดูกันเลยครับ
วิธีทำให้ผิวขาว |
วิธีทำให้ผิวขาว
โยเกิร์ตผสมมะนาว
นำน้ำมะนาวคั้นผสมโยเกิร์ตแล้วเอาไปทาผิวปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที กรดในน้ำมะนาวจะช่วยขจัดเซลล์ของผิวเก่า เผยผิวใหม่ที่เป็นผิวขาวสดใสกว่าเดิมครับ ส่วนผสมของโยเกิร์ตจะช่วยลดการระคายเคืองผิวจากกรดมะนาว
กล้วยหอมผสมนมสด
โดยการนำกล้วยหอมและนมสดมาบดผสมให้เข้ากัน แล้วจึงพอกทั่วผิวในบริเวณที่ต้องการ ซึ่งกล้วยหอมและนมสดจะทำให้ผิวขาวชุ่มชื้นและเนียนสวย
มะละกอผสมนมสด
โดยการนำเอาเนื้อมะละกอสุกและนมสดมาบดผสมให้เข้ากัน แล้วจึงนำส่วนผสมที่ได้พอกบนผิวหน้าหรือผิวกายแล้วทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำเปล่า สูตรนี้คล้ายๆกับสูตรกล้วยหอมและนมสดครับ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น
น้ำผึ้งผสมโยเกิร์ต
ผสมน้ำผึ้งและโยเกิร์ตให้เข้ากันดี คนให้เป็นเนี้อเนียน แล้วจึงนำไปพอกลงบนผิวและผิวกายจนทั่ว ทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมงโดยประมาณ แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ซึ่งน้ำผึ้งและโยเกิร์ตจะช่วยให้ผิวขาวและเนียนนุ่มขึ้นได้
น้ำมันมะพร้าว
เป็นสูตรโบราณที่ใช้ได้ผลมาก ทำง่ายๆโดยทาน้ำมันมะพร้าวที่ผิวได้เลยครับ น้ำมันมะพร้าวจะช่วยทำให้ผิวขาวเนียนนุ่มชุ่มชื่น
ไข่ขาวผสมมะนาวและมะกอก
ผสมไข่ขาว 3 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำมันมะกอกเล็กน้อย ผสมให้เข้ากัน และทาทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที หลังจากนั้นล้างออกด้วยนม (อุณหภูมิห้อง) คุณจะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงหรือจะทำซ้ำจนกว่าคุณจะพอใจ
แป้งผสมกับนม
ผสมแป้งกับนมในให้เป็นเนื้อเดียวกัน และทาลงบนใบหน้าของคุณ ทิ้งไว้ 15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ซึ่งแร่ธาตุในนมนั้นจะช่วยทำให้ผิวหน้าของเราชุ่มชื้น
กรดผลไม้
AHA หรือกรดผลไม้ ที่มีขายทั่วไป โดยมีความเข้มข้นตั้งแต่ 5-70% ใช้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง โดยจะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดลอกออกมา เผยผิวใหม่ที่ขาวกว่าเดิม และหลังจากทำแล้วควรทากันแดดด้วย เพราะชั้นผิวหนังจะบางลงและไวต่อแสงมาก
อยากขาวทำไงดี
1. ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วงเวลา 10.00-16.00 น. เพราะช่วงเวลาดังกล่าวแสงแดดจากดวงอาทิตย์จะมีปริมาณแสง UV ที่สามารถทำร้ายผิวเราได้อย่างมาก ถ้าเลี่ยงไมไ่ด้ควรทา ครีมกันแดด เพื่อป้องกันผิวของเราจากแสงแดดเพื่อผิวที่ดูขาวใสกระจ่างอย่างต่อเนื่อง
2. ควรทา ครีมกันแดด เสมอ แม้ว่าจะไม่ได้ออกไปเจอแสงอาทิตย์ แต่คุณทราบหรือไม่ว่าแสงจากหลอดไฟภายในบ้านหรือที่ทำงานก็เป็นตัวการทำให้ ผิวของเราคล้ำได้
3. ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากสาร Hydroquinone และสารปรอท เพราะส่วนผสมเหล่านี้ อาจทำให้เกิดรอยแผลหรือเกิดมะเร็งได้หากสะสมในร่างกายมาก
4. ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเร่งให้ผิวขาว ซึ่งมันสามารถทำลายผิวของคุณและอาจเกิดรอยแผลไหม้ได้
5. ห้ามรับประทานวิตามินซีมากเกินไป เพราะจะมีผลต่อสุขภาพของร่างกายได้เช่น อาจทำให้เกิดนิ่วในไตได้
6. ควรล้างหน้าเป็นประจำทุกวันในตอนเช้าและตอนเย็น ซึ่งเป็นการช่วยกระตุ้นให้เซลล์ผิวเกิดการตื่นตัว ทำให้ผิวเกิดความสดชื่นเปล่งปลั่ง
7. ควรควบคุมการรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ ในแต่ละมื้อควรรับประทานอาหารให้ได้โภชนาการที่ครบถ้วน หรืออย่างน้อยในแต่ละมื้อก็ควรที่จะมีผักหรือผลไม้อยู่เป็นจำนวนครึ่งหนึ่ง ของอาหารที่ได้รับ ซึ่งผักผลไม้จะมีประโยชน์ในการช่วยทำให้ผิวขาวดูเปล่งปลั่งมากยิ่งขึ้น
อยากขาวทำไง |
ทำยังไงให้ขาว
1. วิธีขัดผิว (Exfoliating) คือ การขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปจากผิวหน้ารากศัพท์ของมันมาจากคำว่า “foliage” ซึ่งแปลว่าใบพืช เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า อิพิเดอร์มิส (Epidermis) หรือผิวชั้นนอกเกิดขึ้นมาโดยผ่านกระบวนการสร้างจนมาเติบโตเต็มที่อยู่ชั้นบนสุดของผิวหนัง โดยเซลล์ที่อยู่ล่างสุดของชั้นนี้ที่เรียกว่า เซลล์แรกเริ่ม (Basal Cells) จะสร้างเซลล์ลูกซึ่งจะเคลื่อนตัวขึ้นไปจนกลายเป็นผิวชั้นนอก เซลล์เหล่านี้มีหน้าที่เป็นตัวกั้นระหว่างร่างกายเรากับสิ่งแวดล้อมภายนอกทั้งยังช่วยเก็บรักษาความชุ่มชื้นภายในและป้องกันสิ่งแปลกปลอมที่จะเข้าสู่ผิว หลังจากเซลล์ใหม่ที่แข็งแรงกว่าอยู่ประจำที่บนชั้นผิวหนังแล้วเซลล์ผิวเก่าก็จะหลุดลอกออกโดยธรรมชาติ หากยังตกค้างอยู่บนผิวก็จะทำให้ผิวดูไม่มีชีวิตชีวาและดูเป็นสะเก็ด การขัดหน้าจึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการกำจัดเซลล์เก่าที่บดบังความสดใสนั่นเอง
2. ผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับการขัดผิว ได้แก่ ฟองน้ำขัดรูปแบบต่าง ๆ เช่น ใยบวบหรือครีม เช่น เอเอชเอ แม้กระทั่งผ้าเช็ดตัวก็สามารถใช้ขัดผิวได้ การขัดผิวอย่างนุ่มนวลจะช่วยให้ผิวของคุณดูชุ่มชื่นและใสกระจ่าง
3. ควรหลีกเลี่ยงการขัดผิวด้วยวิธีรุนแรง และหากขัดมากเกินไปก็อาจรบกวนหน้าที่ในการสกัดกั้นสิ่งแปลกปลอมของผิว รวมถึงทำให้ผิวอ่อนไหวมากขึ้นจนเกิดความแห้งกร้าน ไหม้แดด หรือปัญหาอื่น ๆ ได้ง่าย
4. ถ้าไม่กำจัดออกไปผิวจะเกิดการอุดตันและหายใจไม่ได้ ผลก็คือผิวจะหม่นหมองดูแล้วมีความมันหรือบางทีอาจทำให้เกิดสิวอุดตัน รวมทั้งทำให้กระบวนการไหลเวียนของโลหิตใต้ผิวไม่ดีทำให้ของเสียเกิดการสะสมตัว
5. ถ้าต้องการขัดผิวหน้าก็ควรทำอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง และขัดผิวกายเดือนละ 1-2 ครั้ง แต่ถ้าใครมีเซลลูไลท์แนะนำให้ขัดผิวบริเวณส่วนนั้นทุกวัน โดยใช้ถุงมือผ้าที่ใช้สำหรับอาบน้ำนวดขัดเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและกำจัดของเสียออกทางระบบน้ำเหลือง
6. วิธีขัดผิวที่ถูกต้อง สิ่งที่ต้องมีคือ ฟองน้ำสำหรับขัดผิวกาย ถุงมือผ้า อาบน้ำหรือใยบวบและผลิตภัณฑ์ขัดผิว เลือกให้เหมาะกับสภาพผิว ถ้าไม่แน่ใจลองปรึกษาคนขาย
7. เริ่มต้นที่ทำผิวเปียก นำผลิตภัณฑ์ขัดผิวเทใส่ใยบวบ ฟองน้ำ หรือถุงมือ แล้วทาลงบนผิวเบา ๆ นวดผลิตภัณฑ์บนผิวด้วยการวนมือเป็นลักษณะวงกลมเบา ๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นระบบไหลเวียนใช้น้ำล้างออกให้สะอาดซับให้แห้งแล้วทาครีมบำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้นในขณะที่ผิวยังชื้น
8. ผลิตภัณฑ์สำหรับขัดผิวควรเลือกที่เป็นครีมหรือเจล เนื้อครีมควรมีลักษณะเป็นเม็ดกลมเพื่อปกป้องผิวจากการระคายเคือง หรือเป็นแผลถลอกขณะที่ขัดนวดผิวบริเวณนั้นควรมีความชื้นพอหมาดแล้วล้างออกด้วยน้ำมาก ๆ
9. ใยบวบ หรือใยขัดธรรมชาติเป็นอุปกรณ์ขัดผิวที่มีประสิทธิภาพมาก แต่ถ้าออกแรงขัดมากเกินไปอาจทำให้แสบผิวได้เพราะใยเหล่านี้มีลักษณะสากและหยาบ เวลาขัดจึงควรขัดเบา ๆ ไปทั่วร่างกายขณะอาบน้ำและเมื่อใช้เสร็จแล้วควรล้างทำความสะอาดและผึ่งให้แห้ง
10. การใช้ผ้าสำหรับถูตัว หรือฟองน้ำถูตัวเวลาอาบน้ำก็เป็นอีกวิธีการหนึ่งของการขัดผิวโดยใช้ร่วมกับสบู่หรือเจลอาบน้ำก็ได้
11. เลียนแบบจากสปาชั้นนำ โดยการใส่น้ำให้เต็มอ่างเติมเกลือเม็ดลงไปและเวลาที่ลงไปแช่ตัวอยู่ในอ่างให้ใช้เกลือ 1 กำมือ ขัดไปมาเบา ๆ ให้ทั่วตัวและล้างตัวด้วยน้ำสะอาด
12. แปรงแปรงผิวสามารถใช้ได้ดี โดยขัดเบา ๆ บนผิวที่แห้งก่อนอาบน้ำ เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดไปหรือจะใช้ในขณะอาบน้ำร่วมกับสบู่หรือเจลอาบน้ำก็ได้
13. การปรนนิบัติผิวให้นุ่มนวลขึ้น ภายในระยะเวลาอันสั้นควรเริ่มด้วยการใช้น้ำมันนวดผิวก่อนอาบน้ำ จากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนของการขัดผิว เพื่อช่วยปรนนิบัติผิวสะอาดหมดจด สวยเนียนสดใสไปอีกนาน ๆ
14. เราสามารถทำครีมขัดผิวใช้เอง โดยการใช้เกลือเม็ดเล็ก ๆ ผสมกับน้ำมันทาผิว (Baby Oil) หรือน้ำมันมะกอกทาทั่วตัวทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที นวดให้ทั่วแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
15. สครับสำเร็จรูปมักมีลักษณะคล้าย ๆ กัน คือ บีด (bead) ซึ่งอาจทำจากเกลือ น้ำตาล อัลมอนด์ ฯลฯ ช่วยในการขัดผิว มีน้ำมันช่วยหล่อลื่นมีกลิ่นหอมอีกทั้งมีส่วนประกอบในการบำรุงผิวอีกหลายชนิด
16. เราสามารถทำสครับใช้เองง่าย ๆ ด้วย การใช้ผักผลไม้ชนิดที่มีคุณสมบัติครบถ้วนในตัวเดียว คือมีผิวสัมผัสที่ให้ความหยาบเล็กน้อยแต่ต้องไม่ถึงกับให้ผิวระคายเคืองมีน้ำช่วยหล่อลื่นและมีวิตามินตรงกับความต้องการ
17. มะขามเปียก สับปะรด มีเส้นใยช่วยขจัดขี้ไคลมีความเป็นกรดช่วยทำความสะอาดผิวทำให้ผิวขาวใสมีวิตามินซึ่งเป็นแอนติออกซิแดนท์สูง มะละกอมีเอนไซม์อ่อน ๆ ช่วยขจัดเซลล์ที่ตายแล้ววิตามินสูงแต่เนื้อมีความละเอียดมาก มะนาวเป็นกรดเหมาะใช้กับผิวส่วนที่หยาบกร้าน เช่น ข้อศอก ส้นเท้านุ่มขึ้น แตงกวาช่วยให้ผิวสดชื่น มะพร้าวขูดมีน้ำมันช่วยบำรุงผิว แต่ถ้าคุณเป็นคนผิวแห้งมากต้องระวังลองใช้ส้มเช้งมีคุณสมบัติ คล้ายสองชนิดแรกแต่ไม่เป็นกรดมาก
18. ถ้าคุณเลือกส่วนผสมหลักที่มีความพร้อมในตัวเดียว เช่น มะขามเปียกก็สามารถนำมาสครับได้เลย แต่ถ้าเลือกมะละกอก็ควรหาสิ่งที่เป็นบีดเพิ่มเข้าไปด้วย เพราะบีดช่วยเพิ่มความสากในสครับทำให้สามารถขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วได้ง่ายขึ้น
19. เพื่อความปลอดภัยควรเลือกสิ่งที่อยู่ในครัวเรือนและมีโอกาสแพ้น้อยที่สุด เช่น เกลือมีฤทธิ์ช่วยสมานผิว ข้าวสารบดละเอียดช่วยให้ผิวขาว น้ำตาลทรายมีทั้งความสากและความหนืดอยู่ในตัวเอง งาเนื้อไม่หยาบเกินไป มีน้ำมันอยู่ในตัวช่วยลดความระคายเคืองและกาแฟกระตุ้นให้ร่างกายขับสารพิษ สิ่งที่ควรระวังคือบีดบางชนิดมีเหลี่ยมคมจึงต้องนำมาบดให้ละเอียดก่อนนอกจากนั้นอาจเพิ่มน้ำมันลงไปเพื่อช่วยลดการเสียดสี
20. ถ้าคุณมีผิวมัน ใช้มะขามเปียกหรือสับปะรดซึ่งมีความเป็นกรดช่วยขจัดความมันผสมกับเกลือมีฤทธิ์ช่วยสมานผิว เติมโยเกิร์ตช่วยบำรุงผิวก็ได้
21. ถ้าคุณมีผิวแห้ง ใช้ส้มเช้งเป็นส่วนผสมหลักปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นแว่นพอจับถนัดมือใส่งาขาวเป็นตัวช่วยขัด เพิ่มน้ำมันมะกอกเล็กน้อยลดความระคายเคือง
22. ถ้าคุณมีผิวแพ้ง่าย ใช้แค่งาขาว งาดำผสมน้ำผึ้งหรือโยเกิร์ตก็พอ
23. การใช้น้ำมัน จุดประสงค์สำคัญคือช่วยหล่อลื่นและเป็นตัวช่วยลดความเข้มข้นของกรดสำหรับคนผิวแห้ง เช่น ถ้าคุณต้องการใช้สับปะรดขัดผิวแต่เกรงว่าผิวจะแห้งเกินไป การเพิ่มส่วนผสมน้ำมันก็เป็นทางเลือกที่ดีเพราะนอกจากช่วยให้ลื่นแล้วน้ำมันยังช่วยเคลือบผิวไม่ให้มีการสูญเสียน้ำมากเกินไป
24. การเพิ่มนม โยเกิร์ต น้ำผึ้ง หรืออื่น ๆ ที่ช่วยบำรุงผิวสามารถทำได้ แต่ต้องดูไม่ให้สครับข้นหรือเหลวเกินไปลักษณะของสครับที่ดีควรมีความหนืดเล็กน้อยจับตัวอยู่บนผิวได้และสะดวกแก่การขัด
25. ใครที่ชอบความหอมรื่นรมย์ สามารถเสริมกลิ่นด้วยการหยดน้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่ชอบลงไป 2-3 หยด ซึ่งต้องเป็นน้ำมันหอมระเหยสำหรับนวดตัว ซึ่งมักผสมที่ความเข้มข้นประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่สำหรับใส่เตาเผาน้ำมันเพราะน้ำมันหอมระเหยเข้มข้นจะทำให้ผิวไหม้
26. คนที่มีโรคเกี่ยวกับต่อมน้ำเหลือง เช่น ต่อมน้ำเหลืองอักเสบรุนแรง ต่อมน้ำเหลืองโต มีแผลเป็นหนอง หรือแม้แต่เป็นสิวอักเสบ ควรงดการสครับชั่วคราวจนกว่าจะหายเพราะการขัดเป็นการกระตุ้นให้อักเสบมากขึ้น
27. ถ้าจะสครับหน้าต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนที่สุด ขัดอย่างเบามือเพื่อกระตุ้นน้อย ๆ เน้นไปที่ร่องจมูกเลี่ยงจุดที่บอบบางมาก ๆ เช่น รอบดวงตา
ทำยังไงให้ขาว |