เชื้อดื้อยาในโรงพยาบาล เชื้อดื้อยาคืออะไร การดื้อยาปฏิชีวนะ
บทความสุขภาพเสนอ บทความสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อดื้อยาปฏิชีวนะในโรงพยาบาล เป็นผลทำให้เราต้องไม่มียาปฏิชีวนะใช้ในการรักษาโรคนั้นๆ เมื่อเราสุขภาพไม่ดี โดนเชื้อแบคทีเรียเล่นงานก็จะทำการรักษาสุขภาพของเราให้ดีขึ้นได้ลำบากมาก และยาปฏิชีวนะเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้ชีวิตเรายืนยาวขึ้น บทความสุขภาพเราได้ข้อมูลมาว่ามาถึงวันนี้การใช้ยาปฏิชีวนะดูท่าจะใกล้หมดหวังแล้ว เพราะพวกเราใช้ยาปฏิชีวนะกันอย่างไม่เหมาะสม ทั้งในไทย และเทศ เราควรตระหนักมันให้ดียิ่งขึ้น ไม่ใช่ไปพบแพทย์ ไปร้านยา แล้วต้องได้ยาฆ่าเชื้อ(ยาปฏิชีวนะ)มาสถานเดียว เพราะโรคแต่ละโรคเกิดจากหลายสาเหตุ อย่างท้องเสีย เป็นหวัด-เจ็บคอ ส่วนใหญ่หายเองได้ไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะ เชื้อดื้อยาคืออะไร เชื้อดื้อยาคือการที่เราไม่สามารถใช้ยานั้นๆฆ่าเชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคได้อีกแล้ว ส่งผลให้รักษาโรคไม่หาย หรือยาไม่สามารถรักษาโรคนั้นได้แล้ว และทางบทความสุขภาพขอทำความเข้าใจกับยาแก้อักเสบกับยาฆ่าเชื้อ(ยาปฏิชีวนะ) นะครับ ยาแก้อักเสบ จะไปยับยั้งสารตัวหนึ่งซึ่งทำให้เราไม่อักเสบ(ไม่ปวด บวม แดง ร้อน) ส่วนยาฆ่าเชื้อ(ยาปฏิชีวนะ)ไม่ใช่ยาแก้อักเสบ ยาชนิดนี้จะไปฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรค โดยเราจะต้องใช้ยาปฏิชีวนะนี้อย่างเคร่งครัดโดยใช้ให้ถูกกับเชื้อนั้นๆ หากอาการดีขึ้นแล้วก็ต้องกินยาให้หมดชุดนั้นไปห้ามเหลือเก็บไว้กินครั้งหลัง และไม่ใช้ยาปฏิชีวนะพร่ำเพรื่อนะครับ ต่อไปบทความสุขภาพเราจะพาท่านไปพบกับ การดื้อยาปฏิชีวนะของเชื้อโรค ซึ่งจะทำให้เราไม่สามารถใช้ยารักษาโรคได้
 |
เชื้อดื้อยาในโรงพยาบาล |
องค์การอนามัยโลกประกาศ "โลกเข้าสู่ยุคที่ยาปฏิชีวนะ ได้สูญเสียคุณสมบัติในการรักษาโรคไปแล้ว"
โดย 114 ประเทศทั่วโลก สามารถใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษาโรคหรืออาการบาดเจ็บได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
มีเชื้อ 7 ชนิด ที่ดื้อยาปฏิชีวนะในรายงาน เช่น การติดเชื้อในกระแสเลือด (Sepsis) โรคท้องร่วง (Diarrhea) โรคปอดอักเสบ (Pneumonia) การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ (Urinary tract infections) และโรคหนองใน (Gonorrhoea) ผลที่ได้พบว่ามีการดื้อยาทั้งหมดในทุกภูมิภาคของโลกเลยทีเดียว
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พบว่าไทยมีการนำเข้าและผลิตยาปฏิชีวนะ กว่า 20% ของยาทั้งหมด เป็นเงินราวๆ 20,000 ล้านบาท
สาเหตุเชื้อดื้อยาปฏิชีวนะ 86-88 % มักเกิดในโรงพยาบาล
 |
เชื้อดื้อยาคืออะไร |
เชื้อดื้อยาเกิดจากอะไร
ไม่มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับโรคและยา ทำให้รับประทานยาหลายชนิดและบ่อย หรือรับประทานไม่ครบ เป็นสาเหตุให้เชื้อดื้อยาปฏิชีวนะ
เลือกใช้ยาที่ไม่เหมาะสมกับเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งยาปฏิชีวนะแต่ละตัวจะมีความจำเพาะเจาะจงในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ต่างกันไป ยาปฏิชีวนะบางตัวฆ่าเชื้อAไม่ได้เลยทำให้คนที่ติดเชื้อAกินเข้าไปแล้วไม่หาย กลับกัน ยาปฏิชีวนะตัวนี้ฆ่าเชื้อBได้ดีที่สุดจึงทำให้คนที่ติดเชื้อBหายได้อย่างเร็วไว ละต้องกินให้หมดชุดยาที่เภสัชกรหรือแพทย์ได้จัดมาให้ท่าน
ใช้ยาปฏิชีวนะในโรคที่ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ อย่างเช่นโรคหวัด เจ็บคอ ท้องเสีย อาการเหล่านี้หายเองได้ส่วนใหญ่ ไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ
 |
การดื้อยาปฏิชีวนะ |
เราช่วยป้องกันรักษา การดื้อยาปฏิชีวนะได้อย่างไร
ผู้ป่วย
ใช้ยาปฏิชีวนะเมื่อแพทย์หรือเภสัชกรสั่งเท่านั้น
ใช้ยาปฏิชีวนะต่อเนื่องจนหมดถึงแม้อาการจะดีขึ้นแล้วก็ตาม
ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะร่วมกับผู้อื่นหรือใช้ยาปฏิชีวนะที่เหลือจากการสั่งยาครั้งก่อน
เภสัชกรและเจ้าที่สาธารณสุขส่งเสริมการป้องกันและควบคุมโรค
สั่งยาและจ่ายยาเมื่อผู้ป่วยมีความจำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะจริงๆ เท่านั้น
สั่งยาและจ่ายยาปฏิชีวนะที่ถูกต้องกับโรคของผู้ป่วย
ผู้กำหนดนโยบาย
เพิ่มระยะการสู้และความสามารถในการทดลอง
ควบคุมและสนับสนุนการใช้ยาที่เหมาะสม
ผู้กำหนดนโยบายและอุตสาหกรรม
ส่งเสริมนวัตกรรมใหม่ๆ การวิจัย และการพัฒนาของเครื่องมือ
สนับสนุนความร่วมมือและการแบ่งปันข้อมูลระหว่างผู้เกี่ยวข้อง
รายงานนี้ยังรวมถึงข้อมูลของการดื้อยาของโรคอื่นๆ ซึ่งให้ภาพที่ครอบคลุมที่สุด เช่น โรคเอดส์ (HIV) โรคมาลาเรีย (Malaria) วัณโรค (Tuberculosis) และไข้หวัดใหญ่ (Influenza) จาก 114 ประเทศอีกด้วย
 |
เชื้อดื้อยาปฏิชีวนะ |