เห็ดพิษดูอย่างไร วิธีการดูเห็ดพิษ เห็ดมีพิษ เห็ดพิษ ทำให้

Edit


เห็ดพิษดูอย่างไร วิธีการดูเห็ดพิษ เห็ดมีพิษ เห็ดพิษ ทำให้

 

      บทความสุขภาพเราเชื่อเหลือเกินว่า หลายคนคงมีความอยากรู้เรื่องของเห็ดพิษ ซึ่งไม่ใช่เห็ดที่สามารถกินได้ เห็ดพิษเป็นเห็ดที่อันตราย บางครั้งเราแยกไม่ออกหรอกว่าเห็ดอันไหนมีพิษไม่มีพิษ เราจะมาดูกันว่าเห็ดพิษดูอย่างไร วิธีการดูเห็ดพิษที่ปลอดภัย เห็ดพิษทำให้เกิดอาการอย่างไร และมีวิธีการป้องกันการกินเห็ดพิษ ตามไปดูในบทความสุขภาพนี้กันเลยครับ

 

เห็ดพิษดูอย่างไร

เห็ดพิษดูอย่างไร

 

     สถิติในรอบ 4 เดือนของปี พ.ศ.2557 ตั้งแต่เดือนมกราคม–เมษายน สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ได้รับรายงานผู้ป่วยกินเห็ดพิษทั่วประเทศจาก 22 จังหวัด จำนวน 91 ราย แต่ยังไม่มีผู้เสียชีวิต จังหวัดที่พบมากอันดับ 1 ได้แก่ พังงา 23 ราย รองลงมาคือเชียงราย 20 ราย ขอนแก่น 5 ราย ศรีสะเกษ 4 รายและคาดว่าจำนวนผู้ป่วยจากเห็ดพิษจะเพิ่มขึ้นกว่านี้ 4-5เท่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศจึงกำลังเร่งให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไป


เห็ดพิษทำให้เกิดอาการ

 

     อาการจะต่างกันไปตามชนิดของเห็ดพิษ ส่วนใหญ่จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลว ปวดท้อง เป็นตะคริว อาจเกิดขึ้นหลังกินไม่กี่นาที หลายชั่วโมง หรือหลายวัน ในรายที่อาการรุนแรงจะเสียชีวิตได้ภายใน 1-8 วัน จากการที่ตับถูกทำลายจากพิษของเห็ด


วิธีกำจัดพิษของเห็ดพิษ

 

     ทำให้ผู้ป่วยอาเจียนออกมาให้มากที่สุด โดยดื่มน้ำอุ่นผสมเกลือแกงแล้วล้วงคอออก เพื่อลดการดูดซึมพิษเข้าร่างกาย แล้วรีบนำส่งโรงพยาบาลหรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลใกล้บ้านทันที พร้อมนำเห็ดพิษนั้นที่รับประทานไปด้วย

 

เห็ดพิษดูอย่างไร 


     เห็ดที่มีพิษรุนแรงที่สุดและเป็นเหตุให้เสียชีวิตบ่อยที่สุดคือ เห็ดระโงกหินหรือเห็ดไข่ตายซาก จะมีสารพิษ 2 ชนิดคือ อะมาท็อกซิน และฟาโลท็อกซิน ทำลายระบบทางเดินอาหาร ตับ ไต สมอง ระบบเลือด ระบบหายใจ ทำให้เสียชีวิตได้ใน 4-10 ชั่วโมง สารในเห็ดพิษจะทนความร้อนได้ดี ดังนั้นถึงแม้เห็ดพิษจะสุกแล้ว แต่ความเป็นพิษก็ยังมีสูง รูปร่างทั่วไปคล้ายกับเห็ดระโงกที่รับประทานได้ แต่มีข้อแตกต่างที่สำคัญคือ เห็ดระโงกที่รับประทานได้ ขอบหมวกมักจะเป็นริ้วคล้ายรอยหวี มีกลิ่นหอมและก้านดอกกลวง ส่วนเห็ดระโงกที่เป็นพิษดังกล่าว กลางดอกหมวกจะนูนขึ้นเล็กน้อยโดยเฉพาะปลอกหุ้มโคน จะยึดติดกับก้านดอก ก้านดอกตัน หรือเป็นรูปที่ไส้กลางเล็กน้อย มีกลิ่นเอียนและกลิ่นค่อนข้างแรงเมื่อดอกแก่ มักเกิดแยกจากกลุ่มเห็ดที่รับประทานได้  มีทั้งแบบดอกสีเหลืองอ่อน สีเขียวอ่อน สีเทาอ่อน และสีขาว นอกจากนี้ยังมีเห็ดที่มีพิษแต่พิษไม่ร้ายแรงถึงแก่ชีวิตอีกหลายชนิดตามแต่ละท้องถิ่น

 

 
วิธีการดูเห็ดพิษ

วิธีการดูเห็ดพิษ

 

การป้องกันอันตรายจากเห็ดพิษ 

 

1. อย่ารับประทานเห็ดที่ไม่รู้จัก หรือหากจำเป็นต้องทานควรชิมเพียงเล็กน้อยก่อนเพื่อดูอาการ

 

2. เห็ดย่อยยาก ควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะอาจเป็นสาเหตุของอาหารเป็นพิษได้

 

3. ระวังเห็ดที่เน่าเสียก็เป็นอีกสาเหตุของอาหารเป็นพิษ

 

4. ระมัดระวังอย่ารับประทานเห็ดพร้อมกับดื่มสุรา (แอลกอฮอล์) เพราะเห็ดบางชนิดจะเกิดพิษทันที

 

5. อย่ารับประทานอาหารที่ปรุงขึ้น สุก ๆ ดิบ ๆ หรือเห็ดดิบดอง เพราะเห็ดบางชนิดยังจะมีพิษอย่างอ่อนเหลืออยู่ ผู้รับประทานจะไม่รู้สึกตัวว่ามีพิษ จนเมื่อรับประทานหลายครั้งก็สะสมพิษมากขึ้นและเป็นพิษร้ายแรงถึงกับเสียชีวิตได้ในภายหลัง

 

วิธีการดูเห็ดพิษ ลักษณะของเห็ดพิษ

 

     เห็ดที่เป็นสีน้ำตาล, เห็ดที่มีหมวกเห็ดสีขาว, เห็ดที่มีปลอกหุ้มโคน, เห็ดที่มีวงแหวนใต้หมวก, เห็ดที่มีโคนอวบใหญ่, เห็ดที่มีปุ่มปม, เห็ดที่มีหมวกเห็ดเป็นรูปๆ แทนที่จะเป็นช่องๆ คล้ายครีบปลา, เห็ดที่มีลักษณะคล้ายสมองหรืออานม้า บางชนิดต้มแล้วกินได้ แต่บางชนิดมีพิษร้ายแรง, เห็ดตูมที่มีเนื้อในสีขาว, เห็ดที่ขึ้นที่มูลสัตว์หรือใกล้มูลสัตว์

 

     การทดสอบเห็ดพิษแบบชาวบ้าน มีหลายวิธี แต่ไม่ได้ผล 100% การทดสอบอาจมีการผิดพลาด ก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้บริโภคได้ ควรบริโภคเห็ดที่เคยบริโภคแล้วไม่เกิดอันตรายเท่านั้น เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันอันตรายจากการบริโภคเห็ด

 

     นอกจากเห็ดพิษแล้ว อาหารที่เป็นพิษและพบผู้ที่ได้รับพิษบ่อยคือ ปลาปักเป้าและแมงดาทะเล ซึ่งสัตว์ 2 ชนิดนี้ มีพิษอยู่ในตัวอยู่แล้ว และเป็นที่ชื่นชอบของนักชิมไม่น้อย พิษส่วนใหญ่ที่ได้รับนั้นส่วนใหญ่มาจากกรรมวิธีการปรุงที่ไม่สะอาด และนำพิษออกไม่หมด เป็นอาหารอีกหนึ่งชนิดที่ควรระวัง

 

     เราก็ได้รู้วิธีการดูเห็ดพิษ การสังเกต ลักษณะต่างๆของเห็ดพิษกันอย่างหนาแน่นกันแล้วนะครับ และยังมีการสังเกตุอาการที่เกิดจากเห็ดพิษ รวมถึงวิธีป้องกันการกินเห็ดพิษเข้าไปโดยไม่ตั้งใจ ทั้งนี้เห็ดพิษไม่ได้เป็นเห็ดเพื่อนำมารับประทาน ฉะนั้นโปรดรับประทานอาหารอย่างมีความรู้ครับ ต่อไปบทความสุขภาพจะเสนออะไร คอยติดตามให้ได้นะครับ