วิธีทำให้หน้าใส เคล็ดลับหน้าใส ทำยังไงให้หน้าใส

Edit


วิธีทำให้หน้าใส เคล็ดลับหน้าใส ทำยังไงให้หน้าใส

 

     บทความสุขภาพเสนอวิธีทำให้หน้าใส เคล็ดลับหน้าใส ทำยังไงให้หน้าใส โดยการทำให้หน้าใสมีหลายวิธี ซึ่งทางเราได้คัดเลือกวิธีที่คิดว่าดีแล้วมาให้ท่านผู้อ่านนำไปปฏิบัติปรับใช้กัน เพราะโดยแท้จริงแล้ว ผิวหน้าคนเราแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ซึ่งเกิดจากพันธุกรรม พฤติกรรมการดูแลผิวหน้ามาก่อนหน้านี้ การทำให้หน้าใสคือ หน้าจะต้องปราศจากสิ่งหมองคล้ำ ไม่มีสิวอุดตัน สิวผด สิวเสี้ยน คงไว้แต่ผิวหน้าอันสวยใส เนียนนุ่ม และแข็งแรง อยากรู้แล้วใช่ไหมครับว่าเรามีวิธีที่ทำให้หน้าใสวิธีใดบ้าง ตามไปดูกันเลยครับ

 

วิธีทำให้หน้าใส

วิธีทำให้หน้าใส


วิธีทำให้หน้าใส

 

หน้าใสด้วยมะนาว 

 

1. นำมะนาว 1 ผล ล้างให้สะอาดแล้วใช้มีดผ่ามะนาวออกเป็นซีกใหญ่ๆ 3 ซีก แคะเมล็ดออกให้หมด บีบเอาน้ำมะนาวใส่ถ้วยรอไว้

 

2. ล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำอุ่นกับสบู่หรือโฟมล้างหน้า แล้วใช้ผ้าขนหนูนุ่มๆซับใบหน้าให้แห้งสนิท ใช้หมวกคลุมผมหรือใช้ที่คาดผมเก็บผมให้หมด

 

3. นำเปลือกมะนาวที่ถูกคั้นน้ำไปแล้ว ชุบกับน้ำมะนาวเล็กน้อยในถ้วยที่เตรียมไว้ แล้วนำมาทาที่ใบหน้าอย่างเบาๆ ช้าๆ เริ่มตั้งแต่บริเวณหน้าผาก ไล่ลงมายังแก้มทั้งสองข้าง จมูกและคางทาไปให้ทั่วๆ ควรเปลี่ยนเปลือกมะนาวบ้าง ทาไปเรื่อยๆจนน้ำมะนาวหมดแก้ว

 

4. ทิ้งไว้อย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงครึ่ง หรือถ้าไม่มีธุระอะไรจะทิ้งไว้หลายๆชั่วโมงก็ได้ หรือจะพอกก่อนนอนจนถึงตื่นนอนก็ได้ แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นๆกับสบู่หรือโฟมล้างหน้า เป็นอันเสร็จพิธี

 

หน้าใสกับโยเกิร์ต

 

     สูตรนี้ทำได้ไม่ยาก เพียงแค่นำโยเกิร์ตรสธรรมชาติมาปั่นรวมกับมะเขือเทศสด และน้ำมะนาวเพียงเล็กน้อย (ประมาณ 1-2 หยด) จากนั้นให้นำมาพอกบนใบหน้าให้ทั่ว โดยเว้นรอบดวงตาและริมฝีปากไว้ ทิ้งไว้บนผิวหน้าประมาณ 15 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด คุณสมบัติของโยเกิร์ตและส่วนผสมดังกล่าวจะช่วยให้ผิวหน้ารู้สึกถึงความสดใส และเปล่งปลั่งได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่พอก แถมยังจะช่วยลดความมันส่วนเกินอันเป็นสาเหตุของสิวและผิวหน้าหมองคล้ำได้อีกด้วย

 

พอกหน้าใสด้วย แตงโมและมะละกอ 

 

     เพียงแค่นำแตงโมมาผ่าเป็นชิ้นเล็ก ๆ คัดเมล็ดออกให้หมด แล้วเอาเนื้อมาปั่นรวมกับเนื้อมะละกอสุก และน้ำผึ้ง เมื่อเสร็จแล้วให้เอามาพอกทิ้งไว้บนใบหน้า ประมาณ 10-15 นาที แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำสะอาด สูตรเคล็ดลับหน้าใสนี้จะช่วยให้สาว ๆ มีใบหน้าที่สดชื่นขึ้นทันตาเห็น อีกทั้งยังมีความกระจ่างใสมากขึ้น เพราะมะละกอนั้นช่วยกำจัดความหมองคล้ำให้หมดไป และยังได้ประโยชน์จากน้ำผึ้งที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นและความเนียนนุ่มให้กับใบหน้าอีกด้วย 

 

ผิวเกลี้ยงและเรียบเนียนด้วยสตรอเบอรี่กับแตงกวา

 

     ให้นำสตรอเบอรี่สด ๆ ประมาณ 2-3 ผล มาปั่นรวมกับแตงกวาครึ่งลูก และน้ำมะนาวประมาณ 1 ช้อนชา นำมาพอกให้ทั่วผิวหน้า ยกเว้นรอบดวงตาและริมฝีปาก ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด โดยส่วนผสมทั้งหมดนี้จะทำหน้าที่ในการช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกให้หลุดออก และจะช่วยเผยให้เห็นผิวหน้าที่ขาวใส เกลี้ยงเกลา และสม่ำเสมอเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ

 

ผิวใสกับหน่อไม้ฝรั่ง 

 

     นำหน่อไม้ฝรั่งมาล้างน้ำเปล่าให้สะอาด จากนั้นนำมาปั่นให้ละเอียด เติมนมสดลงไปผสมให้เข้ากัน แล้วนำส่วนผสมที่ได้มาขัดหน้าอย่างเบามือ แล้วพอกทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที จากนั้นให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาด สูตรนี้จะช่วยให้คุณมีผิวหน้าที่ขาวกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น เพราะกากใยของหน่อไม้ฝรั่งจะช่วยขัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายไปแล้วให้หลุดลอกออกไปและเผยผิวใหม่ที่สวยใสเปล่งปลั่งออกมาแทน นอกจากนี้นมสดยังจะเป็นตัวช่วยขจัดเซลล์ผิวให้หลุดลอกได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย

 

ว่านหางจระเข้ช่วผิวใส

 

     สูตรพอกหน้าสำหรับคนที่ผิวมัน เริ่มจากการล้างหน้าให้สะอาด แล้วเช็ดหน้าให้แห้ง จากนั้นนำเจลสดที่เตรียมเอาไว้มาพอกให้ทั่วใบหน้า ยกเว้นรอบๆดวงตาและรอบๆปาก ทิ้งเอาไว้ประมาณ 20 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด 

 

     สูตรพอกหน้าสำหรับคนที่ผิวแห้ง ควรผสมว่านหางจระเข้เข้ากับน้ำมันมะกอกและไข่แดงให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำไปพอกให้ทั่วใบหน้า ยกเว้นรอบๆดวงตาและรอบๆปาก ทิ้งเอาไว้ประมาณ 20 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด 

 

     สูตรพอกหน้าช่วยให้ผิวกระจ่างใส และลดความมันบนใบหน้า โดยนำเจลว่านหางจระเข้ 1 ช้อนโต๊ะ ดินสอพอง 1 ช้อนโต๊ะ นมสด 1.5 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากันแล้วนำไปพอกให้ทั่วใบหน้า ยกเว้นรอบๆดวงตาและรอบๆปาก ทิ้งเอาไว้ประมาณ 20 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด

 

ขจัดเซลล์ผิวเก่าด้วยมะขามเปียก น้ำผึ้ง และมะนาว

 

     ใช้เนื้อมะขามเปียก 1 กำ แยกเอากากและเม็ดออก ผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ และ มะนาว 1 ช้อนชา ผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำเอามาพอกหน้าไว้ 5-10 นาที แล้วล้างออก ทำเป็นประจำสัปดาห์ 2 ครั้ง จะช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วทำให้ผิวหน้าขาวขึ้นได้

 

โยเกิร์ตสูตรใหม่ 

 

     นำโยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย (อาจแช่ตู้เย็นเพื่อเพิ่มความสดชื่นในที่ขณะพอกหน้า) ทาทิ้งไว้ให้ทั่วใบหน้าแล้วใช้ปลายนิ้วนวดเบา ๆ ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น จุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัส แลคติค และวิตามินบีที่อยู่ในโยเกิร์ตจะช่วยกำจัดสิ่งสกปรกบนรูขุมขนและบำรุงผิวหน้าให้ชุ่มชื่น เนียนสดใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ถือเป็นเคล็ดลับความขาวใสที่สาว ๆ สามารถทำใช้ได้ทุกวัน

 

ลองขมิ้นและนมสด 

 

     หากเปิดตำราสมุนไพรที่ใช้บำรุงผิวพรรณของคนในสมัยก่อน ๆ เชื่อว่า ขมิ้นจะต้องอยู่ในอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอน เพราะขมิ้นจช่วยให้ผิวพรรณนุ่มนวลผ่องใส สะอาดเกลี้ยงเกลา เพียงนำผงขมิ้น 1 ถ้วยผสมกับนมสด 3/4 ถ้วย ผสมให้เข้ากัน แล้วนำมาพอกลงบนผิวขณะอาบน้ำ ทิ้งไว้ประมาณ 15-30 นาที ทำเป็นประจำทุกวัน รับรองผิวขาวเนียนนุ่มสุด ๆ

 

มะเขือเทศช่วยหน้าใส

 

     ใครอยากหน้าสวยใส แถมมีเลือดฝาดแดงระเรื่อเหมือนผิวเด็ก ต้องลองสูตรนี้เลย ! นำมะเขือเทศ 1 ลูกมาบดหรือปั่นพอแหลกหรือจะฝานเป็นชิ้นหนา ๆ แล้วนำมานวดให้ทั่วใบหน้าและลำคอ วิตามินซีและกรดผลไม้ในมะเขือเทศ จะช่วยลอกผิวหนังที่ตายแล้วให้หลุดออกได้

 

แอปเปิ้ลตัวเก่ง

 

     นำแอปเปิ้ลมาปอกเปลือก แล้วเอาเฉพาะเนื้อมาปั่นให้ละเอียด (อาจผสมน้ำผึ้งลงไปนิดหน่อย) แล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ 20 นาที คอลลาเจนและอิลาสตินในผลแอปเปิ้ลจะช่วยให้หน้าใส ไร้ริ้วรอย แถมผิวหน้ายังแข็งแรงขึ้นอีกด้วย

 

ฟักทองวิตามินเอ

 

     ฟักทองต้มบดเอาแต่เนื้อ (อาจเติมน้ำเปล่าลงไปนิดหน่อยเพื่อไม่ให้แห้งมากเกินไป) จากนั้นจึงนำเนื้อฟักทองมาพอกไว้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น เช็ดหน้าให้แห้ง สารอาหารและวิตามินเอที่อยู่ในฟักทอง จะช่วยเสริมสร้างอนุมูลอิสระ เติมอาหารลงสู่ผิวทำให้หน้าขาวใส เนียนนุ่มเหมือนผิวเด็ก

 

ข้าวโอ้ต

 

     นำข้าวโอ้ตประมาณ 1/2 ถ้วยผสมกับน้ำเปล่าเล็กน้อย ผสมให้เข้ากันจนข้าวโอ้ตนิ่มแล้วจึงนำมาทาให้ทั่วใบหน้าทิ้งไว้ 20 นาที ล้างออกด้วยน้ำอุ่น สูตรนี้ผิวจะดูเปล่งปลั่งยิ่งขึ้น ที่สำคัญจะช่วยลดเลือนริ้วรอยต่าง ๆ ให้จางลงได้

 

กล้วยหอม 

 

     ผลไม้สีเหลืองสดนี้ไม่ได้ส่งผลดีต่อสุขภาพเท่านั้น แต่ยังทำให้ผิวหน้าสวยนุ่ม ชุ่มชื้น และสามารถแก้ปัญหาผิวได้หลายอย่างเลยทีเดียว เพียงนำกล้วยหอมสุกมาบดให้เป็นเนื้อละเอียดแล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที เท่านี้ก็เตรียมอวดผิวสวย ๆ ให้คนอื่นอิจฉาได้เลย

 

น้ำตาลทรายแดง

 

     เพียงนำน้ำตาลทรายแดงมาปั่นหรือบดให้ละเอียดเล็กน้อย อาจเติมนมลงไปนิดหน่อย แล้วนำมานวดเบา ๆ เป็นวงกลมให้ทั่วใบหน้า จะทำให้ผิวเนียนกระจ่างใส ชุ่มชื่นขึ้น

 

ดินสอพองดูดความมัน

 

     นำดินสอพองมาผสมน้ำเปล่าให้เป็นเนื้อครีมข้น แล้วทาทิ้งไว้ให้ทั่วใบหน้า เว้นบริเวณรอบดวงตาและริมฝีปาก ทิ้งไว้ 15-20 นาที ดินสอพองจะดูดซับความมันบนใบหน้า ดีท็อกซ์สารตกค้างที่เกาะติดอยู่บนผิว ทำให้ผิวหน้าดูสวยเด้ง แถมยังช่วยป้องกันแสงแดดได้อีกด้วยนะ

 

น้ำผึ้ง + โยเกิร์ต

 

     นำน้ำผึ้งและโยเกิร์ตมาผสมเข้าด้วยกัน แล้วนำส่วนผสมที่ได้มาพอกลงบนใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

 

มะละกอสุก + นมสด 

 

     นำมะละกอสุกและนมสดมาทำการผสมให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำส่วนผสมที่ได้มาทำการพอกบนใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

 

น้ำมะพร้าวช่วยให้ผิวนุ่ม

 

     นำน้ำมะพร้าวมาทาบนใบหน้า เนื่องจากน้ำมะพร้าวสามารถช่วยทำให้ผิวนุ่มเนียน และชุ่มชื่นมากยิ่งขึ้น

 

กล้วยหอม + นมสด

 

     นำกล้วยหอมและนมสดมาผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำส่วนผสมที่ได้มาทำการพอกบนใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

 

ไข่ขาว

 

     นำไข่ขาวมาพอกที่หน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

 

แอปเปิ้ล + น้ำมะนาว

 

     นำแอปเปิ้ลประมาณครึ่งผล ปั่นให้ละเอียดโดยที่ไม่ต้องปอกเปลือกแล้วนำแอปเปิ้ลที่ปั่นละเอียดแล้วผสมเข้ากับน้ำมะนาวประมาณ 2 ช้อนชาให้เข้ากัน จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้มาทำการพอกบนใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

 

มะเขือเทศ + โยเกิร์ต

 

     นำมะเขือเทศลูกเล็กๆ จำนวน 3 ลูก และโยเกิร์ต 3 ช้อนโต๊ะ ปั่นให้ละเอียดให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำส่วนผสมที่ได้มาทำการพอกบนใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด 

 

โยเกิร์ต + เกลือป่น

 

    นำโยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย ผสมเข้ากับเกลือป่นละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ ให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำส่วนผสมที่ได้มาทำการพอกบนใบหน้า จากนั้นให้ใช้ปลายนิ้วชี้และนิ้วกลางขัดไปทั่วหน้าในลักษณะวงกลมอย่างเบามือประมาณ 5 นาที แล้วปล่อยทิ้งเอาไว้ 5 นาที หลังจากนั้นให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาด

 

แตงกวา + ไข่ขาว

 

    เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาหน้าที่มีความมัน และปัญหาเรื่องสิวมากๆ นำแตงกวา 1 ลูก ไข่ขาว 1 ฟอง น้ำมะนาว 1 ช้อนชา ผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำส่วนผสมที่ได้มาทำการพอกบนใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

 

แตงโม

 

     นำแตงโมมาฝานให้เป็นชิ้นบางๆ จากส่วนที่แดงที่สุด จากนั้นให้นำชิ้นแตงโมเหล่านั้นมาแปะให้ทั่วใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

 

มะเขือเทศสด

 

     นำมะเขือเทศมาฝานให้เป็นชิ้นหนาๆ แล้วนำมาถูให้ทั่วใบหน้าและลำคอ เมื่อรู้สึกว่าน้ำในมะเขือเทศหมดแล้วให้เปลี่ยนชิ้นใหม่มาถูแทน ทิ้งเอาไว้สักครู่ แล้วใช้สำลีชุบน้ำเย็น เช็ดมะเขือเทศบนใบหน้าออกให้สะอาด

 

นมเปรี้ยวแช่เย็น

 

     สูตรนี้เหมาะสำหรับคนที่มีผิวมัน เริ่มจากการล้างหน้าให้สะอาด แล้วนำนมเปรี้ยวที่แช่เย็นมาทาพอกให้ทั่วใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 20 นาที แล้วใช้ผ้าขนหนูนุ่มๆ เช็ดออก

 

มะขามเปียก + นมสด

 

     นำน้ำที่คั้นออกมาจากมะขามเปียกที่ผสมกับน้ำอุ่นประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ ผสมเข้ากับนมสด 2-3 ช้อนโต๊ะ แล้วนำส่วนผสมที่ได้มาทำการพอกบนใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

 

มะเขือเทศ + ข้าวโอ๊ต

 

     นำมะเขือเทศ 1 ผลมาบดให้ละเอียด แล้วผสมเข้ากับข้าวโอ๊ต 1 ช้อนชา ให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำส่วนผสมที่ได้มาทำการพอกบนใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

 

วุ้นว่านหางจระเข้

 

     นำว่านหางจระเข้มาปอกเปลือกเอาแต่เนื้อวุ้นที่อยู่ภายใน ล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำไปปั่นหรือบดจนละเอียดกลายเป็นเนื้อเจล จากนั้นนำไปการพอกบนใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

 

ใบบัวบก 

 

     นำใบบัวบกสดมาคั้นเอาน้ำ ใช้ผ้าก็อตสะอาดจุ่มเอาน้ำใบบัวบก แล้วนำผ้าก็อตไปวางทั่วใบหน้า ทิ้งเอาไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออก

 

น้ำผึ้งมะนาว

 

     ช่วยทำให้ผิวหน้านุ่มชุ่มชื่นและช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไป
ส่วนผสม น้ำผึ้ง 1 ถ้วย , น้ำมะนาว 1 ช้อนชา

 

     วิธีทำ ผสมน้ำผึ้งกับน้ำมะนาวให้เข้ากัน นำมานวดให้ทั่วใบหน้าประมาณ 15 นาที หลังจากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด

 

แอปเปิ้ล

 

     ช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่า ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า ทำให้ผิวหน้าดูสดใส เปล่งปลั่ง

 

     ส่วนผสม เนื้อแอปเปิ้ลไร้เปลือก , น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ

 

     วิธีทำ นำเนื้อแอปเปิ้ลมาปั่นรวมกับน้ำผึ้ง ทาให้ทั่วใบหน้าแล้วนวดเบาๆ ทิ้งไว้ 15 นาที หลังจากนั้นล้างออกด้วยน้ำเย็น

 

แตงกวา 

 

     ช่วยกระชับรูขุมขน ลดความมันบนใบหน้า ทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนชุ่มชื่น
ส่วนผสม แตงกวาหั่นเป็นชิ้นบางๆ 1 ผล , ไข่ไก่ 1 ฟอง(ใช้เฉพาะไข่ขาว) , น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ

 

     วิธีทำ นำแตงกวา ไข่ขาว มะนาว ไปปั่นรวมกันจนละเอียด แล้วนำมาพอกให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออก 

 

     *ผลไม้ที่ใช้ต้องสดใหม่เสมอ โดยก่อนการพอกหน้าต้องล้างหน้าให้สะอาด และหลังจากพอกหน้าไม่ควรหัวเราะพูดคุยเพราะจะทำให้ผิวหน้าเกิดริ้วรอยได้

 

10 วิธีทำให้หน้าใส

 

1. นำผ้าไปแช่ในน้ำอุ่น นำมาโปะไว้ที่หน้าเพื่อเปิดรูขุมขนของเรา จากนั้นใช้น้ำผึ้งทาลงบนใบหน้าทิ้งไว้ 15-30 นาที แล้วล้างด้วยน้ำอุ่น และนำผ้าที่แช่ด้วยน้ำเย็นมาเช็ดทำความสะอาด 

 

2. ใช้ไข่แดงดิบทาลงบนใบหน้าและลำคอทิ้งไว้ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น 

 

3. ใช้ไข่ขาวมาพอกหน้า รอจนไข่ข้าวแห้งจนมีสีขาว คุณจะรู้สึกอุ่นๆ บนผิวหน้า

 

4. วิธีที่ง่ายๆ อีกวิธีคือใช้ผลองุ่นครึ่งลูก ถูลงบนใบหน้าจนน้ำจากองุ่นซึมเข้าผิวหน้า แล้วค่อยล้างด้วยน้ำสะอาด 

 

5. นำกล้วยสุกมาบดจนละเอียดแล้วนำไปพอกใบหน้าของคุณ ทิ้งไว้ 15-30 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น 

 

6. โยเกิร์ตที่เราคุ้นเคยที่สามารถฟื้นฟูความชุ่มชื้นของผิวหน้าได้ดี นำมาพอกหน้าใช้เวลา 15-20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด 

 

7. ถ้าหากริมฝีปากของคุณแห้งและแตกใช้คุณใช้น้ำมันมะกอกทาที่ริมฝีปากของคุณให้ชุ่มชื้นก่อนนอน

 

8. นำอะโวคาโดบดให้ละเอียดและนำไปพอกหน้า ใช้เวลา 10 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด อโวคาโดเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพและยังช่วยฟื้นฟูผิวของเราได้อย่างดี

 

9. เตรียมนมสดหรือนมจืด ใส่ในแก้วเล็กๆ นำคอตตอนบัดจุ่มนมจืดในชุ่ม เช็ดให้ทั่วไปหน้าจนกว่าคุณจะรู้สึกว่าผิวหน้ากระชับ แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น คุณจะรู้สึกว่าผิวหน้าของคุณนุ่มขึ้น

 

10. ใช้ Baking Soda ในการช่วยผลัดผิวที่ตายแล้วบนใบหน้าของคุณได้

 

เคล็ดลับหน้าใส

เคล็ดลับหน้าใส

 

เคล็ดลับหน้าใส

 

1. นอนหลับให้เพียงพอ

 

     วิธีหน้าใสวิธีแรกแรก ให้คุณปรับเปลี่ยนการนอน ด้วยการนอนก่อน 4 ทุ่ม แล้วควรนอนให้ครบวันละ 8 ชั่วโมง เวลาที่ควรนอนที่สุดคือตั้งแต่ 3 ทุ่มไปจนถึงตี 4 เมื่อเราสามารถควบคุมให้ร่างกายพักผ่อนอย่างเพียงพอ ก็จะมีภูมิคุ้มกันโรคที่ดีขึ้น มีระบบทางเดินหายใจที่ดี มีระบบทางเดินอาหารที่ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งยังจะมีอายุยาวกว่าเดิม และร่างกายไม่เสื่อมโทรม แต่ถ้าหากคุณนอนไม่เพียงพอ หรือนอนหลัง 4 ทุ่ม ระบบต่างๆในร่างกายจะทำงานไม่ปกติ ภูมิคุ้มกันไม่ดี เสื่อมโทรม และยังจะทำให้คุณมีอายุสั้นอีกด้วย ที่สำคัญที่สุดสำหรับคนรักความสวยความงาม ก็คือ การนอนไม่เพียงพอ จะทำให้หน้าไม่ใส ใบหน้าหมองคล้ำอีกด้วย

 

2. ออกกำลังกายเป็นประจำ

 

     แค่เพียงคุณออกกำลังกายทุกวัน แค่วันละ 30 นาที หรือจะออกกำลังกายแค่ วันเว้นวันก็ได้ ไม่ว่าคุณจะเข้าฟิตเนส หรือทำงานบ้าน ทำงานสวน ก็เป็นการออกกำลังกายอีกวิธีหนึ่ง ซึ่งการออกกำลังกายนั้น แน่นอนว่าจะทำให้คุณมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีกล้ามเนื้อที่ไร้ไขมัน มีผิวที่สดใส มีน้ำมีนวลมากขึ้นกว่าเดิม และมีสุขภาพผิวที่ดียิ่งขึ้นกว่าที่เคย 

 

3. ดื่มน้ำเปล่ามากๆ

 

     การดื่มน้ำเปล่าช่วยคุณได้ เพราะว่าน้ำเปล่านั้น สามารถช่วยขจัดของเสียจากร่างกายของคนเราให้ออกมาได้อย่างมากมาย เพียงคุณดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย วันละ 8 แก้ว ก็จะทำให้ผิวพรรณของคุณมีความชุ่มชื่น ดูเปล่งปลั่ง มีกล้ามเนื้อที่ผุดผ่อง ไม่หมอง น่ามองมากกว่าเดิม อีกทั้งยังจะทำให้ผิวหน้าของคุณมีความสดใส ประกายออร่ายิ่งกว่าดาราเลยทีเดียว

 

4. ผักผลไม้ช่วยหน้าใส

 

     วิตามินจากผักและผลไม้จะช่วยให้ผิวพรรณของคุณดูขาวใส เพียงคุณหันมาทานผักและผลไม้เป็นประจำทุกๆวัน ทุกๆมื้ออาหาร อย่างเช่น มะเขือเทศ มะนาว กีวี่ กล้วย ฝรั่ง และส้ม ซึ่งเป็นผลไม้ที่เราสามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไปนี้ สามารถช่วยต้านทานโรคต่างๆได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะว่าวิตามินในผักผลไม้ มีส่วนช่วยให้ผิวของคุณดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติ แบบนี้แหละครับที่เรียกว่าสวยจากภายใน

 

5. งดกินของมัน

 

     งดเว้นการทานอาหารที่มีความมัน หากเป็นไปได้ให้หลีกเลี่ยงทุกชนิดไปเลยยิ่งดี ไม่ว่าจะของทอด ของผัด  หรือเมนูที่เต็มไปด้วยไขมันสัตว์  ก็ตาม มันจะทำให้ผิวหน้าใสๆ สวยๆของคุณเกิดสิว จากนั้น คุณก็จะมีสิวอุดตันเต็มไปหมดทั้งหน้า หากอยากสวยและดูดีให้งดอาหารมันๆทุกชนิดไปเลยครับ แล้วหันมาดื่มน้ำเปล่าแทน ยิ่งอยากกินของมันๆเท่าไหร่ ให้ทานน้ำเปล่าแทนไปเลย

 

6. วิธีปฏิบัติตัวเมื่อเป็นประจำเดือน

 

     เมื่อไหร่ก็ตามที่เป็นเมนส์ (ประจำเดือน) มา คุณจะมีปฏิกิริยาอยากทานอาหารมากขึ้น รวมไปถึงอาหารที่มีความมัน คุณจะอยากทานเป็นพิเศษ แล้วถ้าหากคุณเผลอใจ แอบทานอาหารมันๆเข้าไป ใบหน้าของคุณจะเกิดความมันขึ้นมาทันที และความมันนี่แหละครับ เป็นตัวปัญหาในการเกิดสิวอุดตัน  หากไม่อยากมีสิวอุดตันและไม่อยากหน้ามันให้หมดสวย ก็ฝืนใจอย่าตามใจปากเป็นอันเด็ดขาด

 

7. มองโลกในแง่ดี

 

     อย่าเครียด เพราะความเครียดเป็นตัวปัญหาอันดับต้นๆ ที่จะทำให้คุณมีสิว เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเครียดสิวของคุณจะขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัว ฉะนั้นเพียงคุณหันมามองโลกในแง่ดีซะบ้าง มีอารมณ์ร่าเริงแจ่มใส มีความสดชื่นตลอดทั้งวี่ทั้งวัน ทำจิตใจให้ร่าเริงเข้าไว้ แค่นี้ใบหน้าใสๆก็เป็นของคุณแล้วครับ

 

8. งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เหล้า บุหรี่ ชา กาแฟ

 

     งดการดื่มเหล้า และสูบบุหรี่ทุกกรณี ในเมื่อเราก็รู้อยู่แล้วว่าเหล้าและบุหรี่นั้น มันทำให้สุขภาพร่างกายของเรานั้นแย่ ทำให้ร่างกายของเรามีผลเสีย ก็ควรหลีกเลี่ยงซะ ไม่เช่นนั้น ใบหน้าของคุณจะมีสิวอุดตัน หน้าแก่ก่อนวัย ผิวหนังบริเวณใบหน้าเหี่ยวย่น หน้าตาหมอง ไม่สดใส หากคุณไม่อยากมีใบหน้าที่เลวร้ายแบบนั้นก็เลิกเหล้าเลิกบุหรี่เถอะครับ

 

9. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแดด

 

     งดการเผชิญหน้าต่อสู้กับแดดโดยตรง ยิ่งเป็นแดดจัดๆยิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่ การที่เราออกไปข้างนอกแล้วพบว่ามีแสงแดดที่ร้อนจัดโดยที่เราไม่ป้องกัน ไม่ใส่แว่นกันแดด หรือทาครีมกันแดดป้องกัน ก็จะเกิดปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ และผิวหน้าไหม้อย่างเห็นได้ชัด จาก UVA และ UVB แต่ถ้าหากหลีกเลี่ยงการเผชิญแดดไม่ได้จริงๆ ก็ให้หาแว่นกันแดดมาใส่ป้องกัน หรือว่าจะกลางร่มก็ได้ แต่ถ้าครีมกันแดดด้วยก็จะดีที่สุด แต่ถ้าจะให้ดีไปกว่านั้น หลีกเลี่ยงการพบเจอแดดแรงๆจะดีกว่า

 

10. ทำทรีทเม้นท์หน้าอาทิตย์ละครั้ง

 

     หาเวลาว่างซัก 1 วันต่อสัปดาห์ เพื่อพักผ่อนผิวหน้า ด้วยการทำทรีทเม้นท์ (อย่างน้อยอาทิตย์หรือสองอาทิตย์ครั้งก็ยังดี)

 

11. การล้างหน้าที่ดี

 

     ไม่ว่าคุณจะง่วงเพียงใด ก็อย่าลืมล้างหน้าก่อนเข้านอนเด็ดขาด ไม่ยังงั้นสิวถามหาแน่นอน ซึ่งก่อนที่คุณจะนอนนั้น ให้เช็ดทำความสะอาดใบหน้าให้หมดคราบเครื่องสำอาง ให้สะอาดที่สุด  จากนั้นให้ทำการล้างหน้าตามปกติ โดยทั่วไปแล้วเราไม่ควรล้างหน้าเกิน 2 ครั้งต่อวัน เพราะจะทำให้ผิวหน้าของเราไม่มีความชุ่มชื้น ดังนั้นควรล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง เวลาเช้า กับเวลาก่อนนอนก็เพียงพอแล้ว (หากไม่ไหวจริงๆให้ล้างด้วยน้ำเปล่า)

 

12. ใช้โทนเนอร์เพื่อผิวที่สะอาด

 

     หลังจากที่คุณล้างหน้าเสร็จ มันอาจจะยังไม่สะอาดพอ ดังนั้นคุณควรจะหาโทนเนอร์ซักยี่ห้อหนึ่ง มาเช็ดทำความสะอาดใบหน้าของคุณเพื่อความสะอาดหมดจดอีกครั้ง เช็ดให้มั่นใจ ว่าผิวหน้าของคุณไม่มีคราบสกปรกจากสิ่งสกปรกที่เราเจอในแต่ละวัน รวมไปถึงคราบเครื่องสำอางตกค้างแล้วจริงๆ

 

13. บำรุงด้วยครีมหน้าใส

 

     ทุกๆครั้งหลังจากที่คุณล้างหน้าทำความสะอาดอย่างเรียบร้อยแล้ว ให้หาครีมบำรุงผิวหน้าที่เหมาะแก่สภาพหน้าของคุณ เพื่อให้ความชุ่มชื้นของครีมบำรุง มาช่วยเติมเต็มในส่วนของการเสียความชุ่มชื้นจากการล้างหน้าไป โดยการทาครีมบำรุงหลังล้างหน้านั้น จะช่วยให้ริ้วรอยบนใบหน้าของเราลดลง และทำให้หน้าใสอย่างมีประสิทธิภาพ 

 

14. ทำความสะอาดอุปกรณ์แต่งหน้า ผม

 

     เมื่อเราแต่งหน้าบ่อยๆ แปรงหรือพัฟที่เราใช้ จะมีความสกปรกของความมันบนใบหน้าของเราสะสมอยู่ ยิ่งบางคนให้คนอื่นใช้ด้วยนี่ยิ่งอันตราย อาจจะทำให้ใบหน้าเกิดสิวได้ง่ายกว่าเดิม เพียงแค่คุณทำความสะอาดมันบ้าง นำไปล้าง ทำความสะอาดให้เกลี้ยงเพียงสัปดาห์ละครั้ง แค่นี้ก็สามารถป้องกันแบคทีเรียจากอุปกรณ์การแต่งหน้าได้แล้ว

 

15. กระดาษซับมัน

 

     หากคุณเป็นคนที่มีผิวหน้ามัน ก็แค่ใช้กระดาษซับหน้ามันที่มีขายตามท้องตลาดและร้านสะดวกซื้อ มาซับแทนการล้างหน้าจะดีกว่า เพราะการล้างหน้าบ่อยๆจะทำให้ผิวหน้าคุณขาดความชุ่มชื้นได้ ซึ่งการล้างหน้าบ่อยๆนั้นผิวก็จะแห้งเกินไป จนทำให้ต่อมไขมันกระตุ้นการผลิตน้ำมันออกมามากกว่าเดิมเพื่อทดแทนความมันที่หายไป จนเป็นบ่อเกิดทำให้เกิดสิวกันไปอีก

 

16. ใช้โลชั่น

 

     ใช้โลชั่นอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีความเสี่ยง หรืออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่จะทำให้แก่ เช่น อยู่แต่ในห้องแอร์ ที่เปิดเบอร์เดียวหนาวจัดตลอดปีตลอดชาติ หากแอร์ของคุณปรับได้ กรุณาปรับอุณหภูมิบ้างเถอะครับ

 

17. รักษาความสะอาดบนใบหน้า

 

     ทำความสะอาดร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งใบหน้าให้สะอาดอยู่เสมอ แล้วยิ่งหากคุณเป็นสิวด้วยแล้วคุณควรใช้โฟมล้างหน้าที่เหมาะสำหรับการรักษา สิวเท่านั้น โฟมที่มีส่วนผสมของ AHA จะช่วยทำให้ใบหน้าของคุณลื่นขึ้น ที่สำคัญห้ามแกะสิวอย่างเด็ดขาด คนที่เป็นสิวเสี้ยนหากยิ่งแกะ ผิวของคุณหลังแกะก็จะคล้ายกับโลกดวงจันทร์ ส่วนบรรดาสิวมีหนองทั้งหลาย หากยิ่งแกะก็จะยิ่งเกิดการอักเสบ สิว เป็นตัวการหนึ่งที่ทำให้ใบหน้าของคุณดูเครียดและแก่ได้โดยเฉพาะบรรดาผิวโลก ดวงจันทร์ทั้งหลาย 

 

18. ใช้มอยซเจอร์ไรส์

 

     หากคุณเป็นคนผิวแห้ง ควรใช้มอยซเจอร์ไรส์ก่อนนอนทุกครั้ง และถ้ามีส่วนใดที่แห้งเป็นพิเศษ ควรใช้โลชั่นที่มี AHA ทาให้ทั่วบริเวณ แต่ถ้าคุณเป็นคนหน้ามัน ควรใช้มอยซเจอร์ไรส์ชนิดเจลจะเหมาะกว่าชนิดครีม 

 

19. ไม่ควรนำสิ่งสกปรกสัมผัสใบหน้า

 

     อย่าใช้มือสัมผัส จับ ลูบ ถูใบหน้าในช่วงระหว่างวัน จำไว้ว่างทุกครั้งเมื่อไปถึงที่ทำงานหรือทันทีที่กลับถึงบ้านต้องล้างมือ ก่อนเสมอ เพราะมือของเราจับต้องสิ่งสกปรกเชื้อโรค ฝุ่นละอองต่างๆมาตลอดทั้งวัน และการที่คุณจะเผลอเอามือไปจับหน้าจับตาอาจทำให้สิวขึ้นได้ 

 

20. ล้างเครื่องสำอางออกอย่างระมัดระวัง

 

     ล้างเครื่องสำอางออกอย่างระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัย ให้คุณล้างมาสคารา หรืออายแชโดว์ ด้วยเครื่องสำอางที่ปราศจากน้ำมัน ทั้งนี้เพื่อมิให้น้ำมันที่ว่าแทรกซึมไปตามผิวหนังส่วนอื่นๆ เพราะอาจจะไปกระตุ้นหรือระคายเคืองผิวให้เกิดสิวขึ้นบนใบหน้าได้ 

 

21. หลีกเลี่ยงมลพิษ

 

     หลีกเลี่ยงมลภาวะเป็นพิษต่างๆ โดยไม่จำเป็น

 

22. พบแพทย์เมื่อผิวหน้ามีความผิดปกติ

 

     หากมีปัญหาเรื่องผิวบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นปัญหาอะไรก็ตามแต่ ให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ดีกว่าไปนั่งปรึกษาตามเคาน์เตอร์เสริมความงามอย่างแน่นอน

 

ทำยังไงให้หน้าใส

ทำยังไงให้หน้าใส

 

ทำยังไงให้หน้าใส

 

ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว

 

     หลังจากที่สาว ๆ ล้างหน้าทุกครั้ง สิ่งสำคัญ คือ การทาครีมบำรุงผิว เพื่อช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวให้ชุ่มชื่นและสดใสไร้ปัญหาทั้งตอนเช้าและก่อนเข้านอน ด้วยเดย์ครีมและไนท์ครีม ที่สำคัญหากอยากมีผิวสวยกระจ่างใสอยู่เสมอสาว ๆ ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ เอเอชเอ บีเอชเอ วิตามินซี ที่มีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิวหน้าให้ผ่องเด้งดูดีเป็นประจำ

 

ขัดสครับผิวหน้า

 

     เชื่อว่าสาว ๆ ที่รักผิวน่าจะรู้กันดีอยู่ว่าการสครับผิว ถือเป็นอีกเคล็ดลับผิวสวยอีกหนทางหนึ่งที่ช่วยให้ขัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก เพื่อผิวหน้าใหม่ที่ดูสดใสเกลี้ยงเกลามากกว่าเดิม แถมยังใช้วัตถุดิบง่าย ๆ ใกล้ตัวอย่าง น้ำตาลทราย ขมิ้น มะขามเปียก หรือข้าวโอ้ต มานวดหรือวนลงไปเบา ๆ ลงบนผิวเปียก แล้วทิ้งไว้ 10-15 นาที ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง รับประกันว่า (หน้า) ใสแน่นอน

 

พอกหน้า

 

     ใน 1 สัปดาห์ คุณควรหาเวลาวันว่างสัก 3-4 วัน เพื่อทำการปรนนิบัติผิวให้สะอาดใสหมดจด ด้วยการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น เพื่อเป็นการเปิดรูขุมขุน จากนั้นจึงนำโยเกิร์ต ไข่ขาว หรือน้ำผึ้งพอกหน้าทาทิ้งไว้ให้บนผิวหน้า 15-20 นาที แล้วล้างออก วิตามินและสารอาหารต่าง ๆ ที่อยู่ในมาส์กธรรมชาติเหล่านี้จะซึมซับเข้าไปบำรุงผิวหน้าให้เปล่งปลั่งสดใสขึ้นได้

 

รับประทานผักผลไม้สดที่หลากหลาย

 

     โดยเฉพาะผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี ไฟเบอร์ อย่าง แอปเปิล ส้ม ฝรั่ง มะเขือเทศ ฟักทอง บรอกโคลี แครอท เป็นต้น อาจรับประทานสด ๆ ด้วยการนำมาปั่นเป็นน้ำผลไม้ดื่มทุกเช้าคู่กับอาหาร หรือรับประทานเป็นประจำทุกวัน เพื่อให้วิตามินและสารอาหารสำคัญตรงเข้าไปบำรุงผิวให้สวยเต่งตึงสดใสเปล่งปลั่งขึ้นได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้ระบบการขับถ่ายเป็นปกติอีกด้วย

 

ล้างทำความสะอาดผิวหน้าให้หมดจด

 

     สำหรับสาว ๆ ที่มีปัญหาผิวหน้าด้วยแล้วยิ่งจำเป็นจะต้องใส่ใจดูแลผิวเป็นพิเศษ โดยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิว ผิวมัน หน้าแห้ง เป็นสิว ควรเลือกใช้ให้เหมาะสม และสำหรับสาว ๆ ที่แต่งหน้าเป็นประจำทุกวัน ควรใช้เมคอัพรีมูฟเวอร์ล้างทำให้สะอาดปราศจากคราบเครื่องสำอางเสียก่อน แล้วจึงล้างทำความสะอาดด้วยเจลล้างหน้าอีกครั้ง เพื่อไม่ให้เครื่องสำอางและความมันอุดตันอยู่ในรูขุมขน

 

ดื่มน้ำเปล่าเพิ่มมากขึ้น

 

     จากที่เคยดื่มน้ำเปล่าบ้าง น้ำอัดลม น้ำหวาน รวมถึงชา กาแฟ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สลับกันไปในระหว่างวัน ลองเปลี่ยนมาดื่มน้ำเปล่าเพิ่มมากขึ้น ไม่ต่ำกว่าวันละ 1 ลิตร  ที่สำคัญยังควรดื่มน้ำเปล่าหลังจากที่ตื่นนอนทันที 1 แก้ว เนื่องจากช่วงเช้าร่างกายขาดน้ำเลย เลยจำเป็นจะต้องเติมน้ำให้ผิวพรรณดูอิ่มเอิบ หน้าสวยสดใส

 

นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

 

     นับเป็นวิธีที่ง่าย ๆ ที่ช่วยให้ผิวหน้าดูสดใสไม่เหี่ยวไม่โทรม ใครที่รู้ตัวว่านอนน้อย นอนดึก ปาร์ตี้เสาร์อาทิตย์ไม่มีพัก ลองหันมาเข้านอนเร็วก่อนสี่ทุ่มเป็นประจำ จะช่วยทำให้ระบบการทำงานของร่างกายเป็นปกติ หน้าใสขึ้นได้แน่นอนจ้า

 

ทำทรีทเม้นท์หรือเลเซอร์ผิวหน้า

 

     เพื่อเป็นปรับสภาพผิวหน้าให้ดูสวยผ่องใสถึงขีดสุด และช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวที่หมองคล้ำ รวมถึงเซลล์ผิวเก่าที่อยู่ด้านนอกให้ค่อย ๆ หลุดออกไป สาว ๆ อาจลองเลือกทำสวยด้วยกลุ่มเลเซอร์ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของผิว รวมถึงนำวิตามินลงสู่ผิวได้อย่างล้ำลึก ได้แก่ IPL ไอออนโต กรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณีหรือกรดผลไม้ เพื่อให้ผิวหน้าดูขาวกระจ่างใส

 

หลีกเลี่ยงแสงแดด

 

     นอกจากการบำรุงผิวหน้าให้สวยใสแล้ว สิ่งสำคัญสำหรับการดูแลผิวหน้า คือ การปกป้องผิวไม่ให้โดนแสงแดดทำร้าย ด้วยการทาครีมกันแดดทาให้ทั่วผิวหน้าก่อนออกจากบ้านครั้ง หรืออาจสวมหมวก แว่นตา เพื่อป้องกันไม่ให้หน้าไหม้แดด เหี่ยวย่นดูแก่ก่อนวัย

 

ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

 

     แน่นอนการออกกำลังกาย ขยับแข้งขา ไม่ว่าจะเป็นการเต้นแอโรบิก จอกกิ้ง โยคะ ฯลฯ ก็ถือเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยทำให้เหงื่อและของเสียที่สะสมอยู่ในร่างออกมาทางผิวหนัง ทั้งยังช่วยกระตุ้นการทำงานหัวใจ ทำให้เลือดไหลเวียนไปทั่วร่างกาย ได้ทั้งหน้าสวยใส แถมร่างกายแข็งแรง ดีแบบสองต่อเลยนะเนี่ย

 

วิธีทำหน้าใสด้วยเลเซอร์และเครื่องมือแพทย์

 

1. การฉีดวิตามินซี

 

     เพราะช่วยให้หน้าใสได้โดยตรง ควรฉีดสัปดาห์ละ 2 ครั้ง และสุขภาพผิวแข็งแรง ผิวจะนุ่มลื่นมากๆ ราคาประมาณ 200-500 บาท

 

2. การทำไอออนโต

 

     เป็นการใช้กระแสไฟฟ้าในการช่วยผลักวิตามินให้ซึมลึกเข้าสู่ผิว จะได้ผลดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง อย่างแรกที่สำคัญคือ ตัวเจลวิตามินที่ใช้ในการทำว่ามีคุณภาพแค่ไหน เจลวิตามินที่ใช้ทำมีความเข้มข้นเท่าไหร่ ตัววิตามินที่ใช้ทำตรงกับความต้องการหรือไม่ ระยะเวลาการทำ(อย่างน้อย 30 นาที จึงจะเห็นผล) และการปรับความแรงของกระแสไฟ(ควรปรับให้เหมาะสมกับสภาพผิวหน้าและปัญหาที่เป็นอยู่) โดยเจลวิตามินที่ทำให้หน้าใสตัวหลักๆก็คือ วิตามินซี(ทำให้หน้าใสโดยตรง) , Licoric (ช่วยเรื่องความขาวและใสด้วย) , และตัวที่แนะนำสำหรับผู้ที่เป็นสิวแล้วอยากหน้าใสคือวิตามินเอ โดยวิตามินเอจะมีหลายความเข้มด้วยกัน 0.025-0.1% เมื่อทำแล้ว อีก 2-3 วันหน้าจะเริ่มผลัดเซลล์ผิวเก่าออก หน้าลอกออกเป็นขุยๆ จะช่วยเอาสิวอุดตันเก่าๆออกมา ช่วงนี้สิวอาจจะเพิ่มมากขึ้นแต่ไม่ต้องกังวล ทำไปนานๆ จะทำให้สิวหายด้วย แล้วหลังจากนั้นหน้าก็จะใสขึ้นเรื่อยๆ แต่ข้อเสียคือเวลาทำจะรู้สึกช๊อตๆ จี๊ดที่หน้าหน่อย ยิ่งถ้ากลิ้งไปโดนตรงบริเวณแผลสิวหรือสิวอักเสบจะจี๊ดมากๆ วิธีแก้คือแปะเทปกาวแบบที่แพทย์ใช้เป็นแผ่นเล็กๆ ลักษณะคล้ายการแปะหัวสิวเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้กระแสไฟฟ้าถูกผิวสิวโดยตรง ส่วนราคาที่ทำจะอยู่ประมาณ 200-500 บาท

 

3. การทำโฟโน

 

     เพิ่มการดูดซึมของเจลวิตามินโดยใช้คลื่นอัลตราโซนิกหรือคลื่นเสียง ส่วนตัวแล้วขณะทำจะรู้สึกสบายหน้ามากๆ (ทำแล้วอาจเผลอหลับได้เลยทีเดียว) ข้อดีที่เห็นได้ชัดเจนก็คือช่วยรักษาเรื่องริ้วรอยได้เป็นอย่างดี แต่ประสิทธิภาพการผลักวิตามินเข้าสู่ผิวจะไม่ดีเท่ากับเครื่องไอออนโต ส่วนราคาที่รับทำก็จะอยู่ที่ 200-500 บาทโดยประมาณ

 

4. การทำ IPL หน้าใสแบบทันใจ

 

     ใช้หลักการของคลื่นแสง สามารถใช้รักษารอยแดงจากสิว กระ กำจัดขนถาวร เส้นเลือดขอด เส้นเลือดฝอยที่เกิดจากการรักษาฝ้า ปานบางชนิด ลดริ้วรอยเหี่ยวย่น ข้อดีคือไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล และหน้าใสทันที ราคาต่อครั้งก็ 2,000 บาทขึ้นไป

 

5. การทำเมโสหน้าใส

 

     หลักการคือใช้เข็มเล็กๆ ฉีดตัวยาเข้าไปในชั้นผิวตื้นๆ โดยตัวยาที่นิยมใช้ก็คือวิตามินซี โดยหลังทำหน้าจะขาวผ่องใสทันที โดยผู้หญิงจะได้ผลดีกว่าผู้ชาย เพราะชั้นใต้ผิวหนังของผู้ชายส่วนใหญ่เป็นพังผืด แต่ข้อเสียคือบางจุดอาจเป็นแผลได้และการทำวิธีนี้เห็นผลได้ไม่นานนัก จึงไม่แนะนำ ส่วนราคาก็ประมาณหลักพันขึ้นไป

 

วิธีทําหน้าให้ใสด้วยอาหารเสริมและเครื่องสำอาง

 

     อาหารเสริมและวิตามิน ที่ทำให้หน้าใสตัวหลักๆ ก็จะมี วิตามินซี (แต่วิตามินซีไม่ทำให้ขาว) และตัวถัดมาที่แนะนำก็คือ สารสกัดจากเมล็ดองุ่น , โคเอนไซม์คิวเท็น , และกลูต้าไธโอน (ใช้โดยวิธีกินจะไม่ค่อยเห็นผล)

 

     เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับเหล่าวิธีที่ทำให้หน้าใส และเคล็ดลับหน้าใส เต็มๆเลยใช่ไหมครับ หลายๆคนที่ถามว่า ทำยังไงให้หน้าใส ก็บอกเขามาเอาสูตรจากนี้ได้เลยนะครับ ควบคู่กับการออกกำลังกายและนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ต่อไปบทความสุขภาพจะเสนออะไร คอยติดตามให้ได้นะครับ