ฟ้าผ่าเกิดจากอะไร การเกิดฟ้าผ่า ฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้อย่างไร

Edit


ฟ้าผ่าเกิดจากอะไร การเกิดฟ้าผ่า ฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้อย่างไร

 

     บทความสุขภาพเราคิดว่าหลายคนสงสัยฟ้าผ่าเกิดจากอะไร การเกิดฟ้าผ่า ฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะท้องฟ้าก็มีแค่เมฆธรรมดาๆจะมีสายฟ้าผ่าลงมาเฉยๆได้ยังไง เมื่อรุ้เกิดการฟ้าผ่านแล้วเราก็สามารถทำนายและหลีกเลี่ยงจากฟ้าผ่าได้ โดยฟ้าผ่านั้นมีความอันตรายสูง หากโดนฟ้าผ่าเข้าจังๆอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้

 

ฟ้าผ่าเกิดจากอะไร

ฟ้าผ่าเกิดจากอะไร


ฟ้าผ่าเกิดจากอะไร

 

     การเกิดฟ้าผ่าเกิดจากเมฆชนิดหนึ่งเขาเรียกว่าเมฆฝนฟ้าคะนอง เมฆฝนฟ้าคะนองเป็นอย่างไร ให้เรานึกภาพตอนเกิดฝนฟ้าคะนองจะมีเมฆดำทะมึนก้อนใหญ่ มีฟ้าแลบแปล๊บ ๆ อยู่ข้างในมีฟ้าร้องครืน ๆ ในเมฆฝนฟ้าคะนอง มันจะเกิดการแยกตัวของประจุบวกกับลบ ลองนึกถึงแบตเตอรี่ก้อนหนึ่งด้านบนจะเป็นบวก ด้านล่างจะเป็นลบ ตัวเมฆฝนฟ้าคะนองจะคล้าย ๆ เหมือนกันด้านบนยอดเมฆสูงขึ้นไปประมาณ 10 กิโลเมตร จะมีประจุบวก ส่วนใหญ่ด้านล่างที่เรียกว่าฐานเมฆซึ่งจะอยู่ใกล้พื้นดินจะมีประจุเป็นลบ 

 

     การที่ฐานเมฆมีประจุเป็นลบมันอยู่ใกล้พื้นดินมันจะเหนียวนำให้พื้นดินและ สิ่งต่าง ๆ ที่อยู่แถวพื้นดินไม่ว่าจะเป็นหลังคาบ้าน ต้นไม้ คนหรือแม้แต่สัตว์ตรงนั้นมีประจุเป็นบวก ประจุจะเหนี่ยวนำกันได้ ทีนี้หัวใจของฟ้าผ่าคือฟ้าผ่าจะคล้าย ๆ กับแบตเตอรี่คือ ไฟฟ้าจะวิ่งมาขั้วบวกกับลบต่อกัน หมายความว่าถ้าฐานเมฆมีประจุเป็นลบแล้วที่พื้นดินจะมีประจุเป็นบวกฟ้าจะผ่า จากฐานเมฆมาที่พื้นดินได้ อันนี้เป็นแบบเบื้องต้นแบบหนึ่ง

 

     ที่เชื่อกันมาก ๆ เช่น สวมสร้อยโลหะแล้วจะเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่า เป็นความเชื่อที่คลาดเคลื่อนมาก ๆ ถ้ามีความเชื่อแบบนี้โอกาสที่คุณจะถูกฟ้าผ่าก็มี แต่ถ้าคุณเชื่อแบบนี้แต่ว่าในตัวก็ไม่มีสร้อยที่เป็นโลหะ ไม่มีแว่นตาที่เป็นโลหะคงไม่เป็นไรที่เกิดขึ้นคือ ประการแรกคนไทยสับสนระหว่างคำสองคำ คำแรกคือตัวนำไฟฟ้าที่ดีคือ โลหะอย่างลวดไฟฟ้าเป็นตัวนำไฟฟ้าที่ดี อันที่สองคือตัวล่อไฟฟ้า ตัวล่อฟ้าผ่าจะเห็นว่าตัวล่อฟ้าผ่าไม่จำเป็นต้องเป็นตัวนำ สิ่งสำคัญคือสูงๆ ต้นไม้สูง ๆ อย่างต้นตาล ต้นมะพร้าวในกลางทุ่งพวกนี้จะถูกฟ้าผ่าได้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นโลหะ

 

     เพราะฉะนั้นตัวล่อฟ้าผ่านั้นคือ ตัวล่อฟ้าไม่จำเป็นต้องเป็นโลหะก็ถูกฟ้าผ่าได้ ต้นไม้ถูกฟ้าผ่าประจำเลย หรือว่ามีสัตว์อยู่ในทุ่งนาเป็นทุ่งโล่ง ๆ หรือว่าแถวชายหาดที่คุณไปยืนคนเดียวแล้วโล่ง ๆ แล้วคุณทำตัวสูงกว่าบริเวณรอบ ๆ แม้ว่าตัวคุณจะไม่มีโลหะเช่นพวกสร้อยคอ พวกแหวนหรือว่าแว่นตาอะไรก็ตามที่โล่งแจ้ง ถ้ามีฝนฟ้าคะนองอยู่เหนือศรีษะอย่างที่กล่าวไว้ว่า เมื่อมีฝนฟ้าคะนองที่ใต้ฐานเมฆเป็นลบมันจะเหนี่ยวนำพื้นให้เป็นบวกแล้วตัว คุณจะถูกเหนี่ยวนำให้เป็นบวกเหมือนกันเพราะฉะนั้นฟ้าก็จะผ่าจากลบที่เมฆมา เป็นบวกที่ตัวคุณได้ 

 

     ต้นไม้ต้นใหญ่ ๆ ห้ามหลบเด็ดขาด จำไว้ว่า ต้นไม้สูง ๆ จะถูกเหนี่ยวนำให้มีประจุเป็นบวกโอกาสที่จะถูกฟ้าผ่ามีมาก ถ้าเป็นคนหรือสัตว์หรือใครก็ตามไปอยู่ใกล้ต้นไม้แล้ว เกิดฟ้าผ่ามาที่ต้นไม้นั้นปั๊บ กระแสไฟฟ้าจะวิ่งมาตามลำต้นแล้วจะออกมาตามโคนต้นไม้ แล้วมาเข้าสู่ตัวเราได้โดยการวิ่งมาตามพื้น

 

     คำว่าถูกฟ้าฝ่าเป็นคำที่ใช้คลาดเคลื่อนคืออยู่ครับ เวลาเราคิดว่าคนถูกฟ้าผ่าเรามักจะนึกภาพว่าคน ๆ นั้น หรือสัตว์นั้นถูกฟ้าผ่าเปรี้ยง ลงมาที่ตัวคนหรือสัตว์เลย ซึ่งกรณีนี้เกิดน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเกิดฟ้าผ่าไปตรงใกล้ ๆ จุดนั้น หลังจากนั้นจากนั้นกระแสไฟฟ้า จะวิ่งมาตามพื้น ปกติฟ้าผ่ามักจะมากับฝน ฝนจะทำให้พื้นดินเปียกแฉะซึ่งจะเป็นสื่อนำไฟฟ้าที่ดิน นึกถึงน้ำท่วมแล้วมีสายไฟรั่วอยู่แล้วสายไฟที่รั่วมันจมอยู่ในน้ำแล้วเดิน ย่ำน้ำไปโดยที่ไม่แตะสายไฟ แล้วกระแสไฟฟ้าก็มาตามน้ำแล้วก็ดูดคุณได้

 

     ยกตัวอย่างอีกกรณีหนึ่ง อย่างวัวควายที่เสียชีวิตหรือเรียกวาตายกลางทุ่งนา ตายพร้อมกันทีเดียวหลายตัวด้วยไม่ใช่ว่าฟ้าผ่าแล้วตายพร้อม ๆ กันหลายตัว ฟ้าผ่าลงมาอาจจะจุดเดียวแต่ว่ากระแสไฟฟ้าวิ่งไปตามพื้นแล้วก็ไปเข้าสองขา หน้าของวัวแล้วก็ผ่านลำตัววัว แล้วก็ออกสองขาหลัง โดยแบบนี้เราจะเห็นภาพเลยว่ามันอยู่ในวงจรไฟฟ้าคือว่าครบวงจรคือมีกระแส ไฟฟ้าเข้าไปทั้งสองขาหน้าผ่านลำตัวแล้วออกสองขาหลังวัวก็ถูกฟ้าผ่าจะเรียก ว่าวัวถูกไฟดูดก็ได้ เรียกให้แม่นยำในกรณีนี้คือถูกฟ้าผ่านั่นเอง

 

การเกิดฟ้าผ่า

การเกิดฟ้าผ่า


การป้องกันฟ้าผ่า

 

     จากสถิติระบุว่า ในรอบ 5 ปี พบเจอผู้บาดเจ็บจากการโดนฟ้าผ่า 180 ราย โดยเสียชีวิตสูงถึง 46 ราย เลยทีเดียว ดังนั้น เพื่อความไม่ประมาทและความปลอดภัย จึงควรเรียนรู้วิธีป้องกันตัวให้ปลอดภัยจากฟ้าผ่า วิธีป้องกันการโดนฟ้าผ่าทำได้โดย

 

     1. ถ้าคุณอยู่ในที่โล่ง รีบหาที่หลบที่ปลอดภัย เช่น อาคารขนาดใหญ่ แต่อย่าอยู่ใกล้ผนังอาคาร ประตูและหน้าต่าง หรือควรหลบในรถยนต์ที่ปิดกระจกมิดชิด แต่อย่าสัมผัสกับตัวถังรถ

 

     2. ถ้าหาที่หลบไม่ได้ ให้คุณหมอบแบบนั่งยองๆ ให้ตัวอยู่ต่ำที่สุด โดยแนบมือทั้งสองข้างติดกับเข่า แล้วเอาศีรษะซุกเข้าไประหว่างเข่า ส่วนเท้าชิดกันหรือเขย่งปลายเท้า เพื่อลดพื้นที่สัมผัสกับพื้นให้น้อยที่สุด แต่อย่านอนหมอบกับพื้น เพราะกระแสไฟฟ้าอาจวิ่งมาตามพื้นได้

 

     3. อย่ายืนหลบอยู่ใต้ต้นไม้สูง และบริเวณใกล้เคียงกับต้นไม้ อย่าอยู่ในที่สูงและใกล้ที่สูง และที่สำคัญอย่ากางร่ม 

 

     4. ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือกลางพื้นที่โล่ง ในขณะที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง เพราะแม้ว่าโทรศัพท์มือถือจะไม่ใช่สื่อล่อฟ้า แต่ถ้าเกิดฟ้าผ่าจะเหนี่ยวนำกระแสไฟฟ้าเข้ามาในมือถือ อีกทั้งโทรศัพท์มือถือมีส่วนประกอบที่เป็นแผ่นโลหะ สายอากาศและแบตเตอรีที่เป็นตัวล่อฟ้า จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่า และยังทำให้แบตเตอรีลัดวงจรจนเกิดระเบิด ส่งผลให้ผู้ถูกฟ้าผ่าได้รับบาดเจ็บมากขึ้น

 

     5. ห้ามใช้โทรศัพท์บ้านในการโทรศัพท์หรือใช้เล่นอินเทอร์เน็ตใน ขณะที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง เพราะฟ้าผ่าอาจผ่าลงมาที่เสาสัญญาณหรือเสาอากาศที่อยู่นอกบ้าน และกระแสไฟจากฟ้าผ่าจะวิ่งมาตามสายโทรศัพท์ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ ทำให้โทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ รวมทั้งผู้ใช้งานได้รับอันตราย

 

     6. ควรถอดปลั๊กอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าออกให้หมด เพราะฟ้าผ่าอาจผ่าลงที่เสาไฟฟ้าหรือสายไฟฟ้าได้ ทำให้กระแสไฟฟ้ากระชากเครื่องใช้ไฟฟ้า อาจทำให้เสียได้ และควรดึงเสาอากาศของโทรทัศน์ออก เพราะหากฟ้าผ่าที่เสาอากาศบนหลังคาบ้าน กระแสไฟฟ้าอาจวิ่งเข้าสู่โทรทัศน์ได้

 

     7. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับโลหะทุกชนิด เนื่องจากโลหะเป็นตัวนำไฟฟ้า และอย่าอยู่ใกล้สายไฟ

 

     8. หลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำ เพราะเป็นตัวนำไฟฟ้า

 

     9. ควรเตรียมไฟฉายไว้ส่องดูทาง หรือเทียนไขและไม้ขีดไฟ เพราะอาจเกิดไฟดับหรือไฟไหม้ได้

 

     ฟ้าผ่าเกิดจากอะไรได้รู้กันไปแล้ว ควรนำความรู้ที่ได้นี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อตัวเองและคนอื่น หากมีคนกลัวฟ้าผ่าก็ไม่ควรไปว่าเขาแต่ควรนำความรู้นี้ไปอธิบายเขาให้เข้าใจ และเมื่อเขาทราบว่าฟ้าผ่าเกิดได้อย่างไรแล้ว เขาจะได้มีวิธีรับมือกับฟ้าผ่าได้ดีขึ้น ต่อไปบทความสุขภาพจะเสนออะไร คอยติดตามให้ได้นะครับ